พลวัตของอุตสาหกรรม — โมเดลอีคอมเมิร์ซสไตล์ “เม็กซิกัน” “ทะเลสีฟ้า”

โรคระบาดได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่ชาวเม็กซิกันไปช้อปปิ้งไปอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบช้อปปิ้งออนไลน์ แต่ในขณะที่ร้านค้าปิด ชาวเม็กซิกันก็เริ่มลองช็อปปิ้งออนไลน์และจัดส่งถึงบ้าน

ก่อนการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่เนื่องจากโควิด-19 อีคอมเมิร์ซของเม็กซิโกมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมั่นคง โดยเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตของอีคอมเมิร์ซที่สูงที่สุดในโลก จากข้อมูลของ Statista ในปี 2020 ชาวเม็กซิกันเกือบ 50% ช้อปปิ้งออนไลน์ และท่ามกลางการแพร่ระบาด จำนวนชาวเม็กซิกันที่ช็อปปิ้งออนไลน์ได้เพิ่มสูงขึ้นและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 78% ภายในปี 2025

การช็อปปิ้งข้ามพรมแดนเป็นส่วนสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซในเม็กซิโก โดยผู้บริโภคอิเล็กทรอนิกส์ชาวเม็กซิกันประมาณ 68 เปอร์เซ็นต์ซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งมากถึง 25% ของยอดขายทั้งหมด จากการศึกษาของ McKinsey Consultancy พบว่า 35 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคคาดหวังว่าการแพร่ระบาดจะดีขึ้นไปจนถึงอย่างน้อยช่วงครึ่งหลังของปี 2021 และพวกเขาจะซื้อสินค้าออนไลน์ต่อไปจนกว่าโรคระบาดจะสิ้นสุดลง หลายๆ คนเชื่อว่าแม้หลังจากเกิดการระบาดแล้ว พวกเขาก็ยังเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว มีรายงานว่าของตกแต่งบ้านกลายเป็นจุดสนใจของการช็อปปิ้งออนไลน์ในเม็กซิโก โดยผู้บริโภคเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ซื้อของตกแต่งบ้าน เช่น ที่นอน โซฟา และเครื่องครัว เมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มของครัวเรือนจะยังคงดำเนินต่อไป

นอกจากนี้ ความนิยมของโซเชียลมีเดียยังนำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาอีคอมเมิร์ซในเม็กซิโก เนื่องจากผู้ซื้อคลิกผ่านไปยังเว็บไซต์ช็อปปิ้งผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากขึ้นเรื่อยๆ พลเมืองเม็กซิกันใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงต่อวันบนโซเชียลมีเดีย โดยที่ Facebook, Pinterest, Twitter และอื่นๆ เป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศ

ความท้าทายหลักสำหรับอีคอมเมิร์ซในเม็กซิโกคือการชำระเงินและการขนส่ง เนื่องจากชาวเม็กซิกันเพียง 47 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีบัญชีธนาคาร และชาวเม็กซิกันมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของบัญชี ในแง่ของโลจิสติกส์ แม้ว่าบริษัทโลจิสติกส์ในปัจจุบันจะมีระบบการกระจายสินค้าที่ครบถ้วน แต่ภูมิประเทศของเม็กซิโกค่อนข้างพิเศษ เพื่อให้บรรลุการกระจาย "กิโลเมตรสุดท้าย" จำเป็นต้องตั้งสถานีจำนวนมาก

แต่ปัญหาที่ขัดขวางอีคอมเมิร์ซในเม็กซิโกกำลังได้รับการแก้ไข และกลุ่มผู้ใช้อีคอมเมิร์ซที่มีศักยภาพจำนวนมากของประเทศกำลังทำให้ผู้ขายกระตือรือร้นที่จะลอง สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อมีการเกิดขึ้นของ "มหาสมุทรสีฟ้าใหม่" มากขึ้น อาณาเขตอีคอมเมิร์ซของโลกจะยังคงขยายตัวต่อไป